การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายเป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่แสดงโฆษณาให้กับผู้ใช้ที่เจาะจงโดยยึดตามกลุ่มประชากรศาสตร์ ผลประโยชน์ ความสนใจ หรือพฤติกรรม การใช้แนวทางนี้แพร่หลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาและเพิ่มประสิทธิภาพของงบประมาณโฆษณา ซึ่งมีหลายรูปแบบ

การกำหนดเป้าหมายตามพฤติกรรม

วิเคราะห์รูปแบบการใช้งานออนไลน์ของผู้ใช้เพื่อให้โฆษณาที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น การแสดงโฆษณาสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะ ให้กับผู้ใช้ที่ค้นหาผลิตภัณฑ์นั้น

การกำหนดเป้าหมายตามตำแหน่งที่ตั้ง

แสดงโฆษณาโดยยึดตามข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนโปรโมชั่นร้านค้าในพื้นที่ให้กับผู้ใช้ ที่อยู่ในเมืองนั้น

การกำหนดเป้าหมายตามประชากรศาสตร์

ปรับแต่งโฆษณาให้กับกลุ่มประชากรเฉพาะโดยยึดตามข้อมูล เช่น อายุ เพศ อาชีพ ระดับการศึกษา
การกำหนดเป้าหมายตามความสนใจ: แสดงโฆษณาโดยยึดตามความสนใจและงานอดิเรกของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น การแสดง โฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารให้กับคนที่สนใจทำอาหาร

ตัวอย่างของการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย

วิธีการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายที่ใช้กันทั่วไปคือ โฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายบนโซเชียลมีเดียเช่น เฟสบุ๊ก อินสตาแกรม และกูเกิล

ข้อดีของการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายนั้นชัดเจน

เพิ่มประสิทธิภาพ : อัตราการตอบสนองของโฆษณาสูงขึ้นเนื่องจากโฆษณาแสดงให้กับคนที่อาจสนใจ
ลดค่าใช้จ่าย : สามารถลดค่าใช้จ่ายโฆษณาที่ไม่จำเป็นและปรับปรุง ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน)
ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ : การแสดงโฆษณาที่ผู้ใช้สนใจสามารถลดความรำคาญจากโฆษณา
อย่างไรก็ตาม การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการละเมิด ความเป็นส่วนตัว ดังนั้น ผู้ลงโฆษณาจึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จัดการข้อมูลของผู้ใช้ อย่างปลอดภัย และตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้ได้รับอนุญาตให้ใช้ข้อมูล