นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI
มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ 20 อันดับสถาบันวิจัย เผยผลสรุปข้อมูลประจำปี 2566
- ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
- •
- ประเทศอ้างอิง: ประเทศเกาหลีใต้
- •
- ชีวิต
เลือกภาษา
สรุปโดย AI ของ durumis
- ข้อมูลเทรนด์ปี 2566 แสดงให้เห็นถึงความนิยมของผลประโยชน์บัตรเครดิต แบรนด์ร้านกาแฟที่ชื่นชอบ ยาแก้เมาค้างที่ชื่นชอบ ภาพลักษณ์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ร้านค้าที่สำคัญ เงินสินสอด การสนทนาในกลุ่มสาธารณะ และเงินเดือนที่ต้องการในสาขาต่างๆ แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ของวัยรุ่นในแต่ละเจเนอเรชั่น
- โดยเฉพาะเจน Z ชื่นชอบบัตรเครดิตสะสมคะแนน เมกาคอฟฟี่ ยาแก้เมาค้างแบบสติด์ ยาแก้เมาค้าง สกายเฮฟเว่น สไตล์ ออนไลน์ ร้านสะดวกซื้อ การสนทนาในกลุ่มสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับเกม เงินเดือนที่ต้องการ 44,520,000 บาท
- นอกจากนี้ ยังได้แสดงข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละเจนเนอเรชั่น โดยเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของเทรนด์ของเจน Y และเจน X
สถาบันวิจัยเยาวชน 20 อันดับ ได้เผยแพร่ข้อมูลสำคัญในรูปแบบอินโฟกราฟิกเพื่อสรุปแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกประจำปีของแต่ละรุ่นในปี 2566 ข้อมูลที่สำคัญ 14 รายการที่เผยแพร่ใน 11 หัวข้อหลักตลอดทั้งปี ตั้งแต่การเงินไปจนถึงอาหาร เครื่องดื่ม ความงาม อิเล็กทรอนิกส์ และสื่อ สามารถดูได้อย่างรวดเร็ว
มหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ 20 อันดับสถาบันวิจัย ได้เลือกข้อมูลสำคัญประจำปี 2566 สำหรับวัยรุ่นในแต่ละเจเนอเรชั่น ในรูปแบบข้อมูลอินโฟกราฟิก
ผลประโยชน์ที่พิจารณาเป็นอันดับแรกในการใช้บัตรเครดิต คือ ‘สะสมคะแนน’
ข้อมูลการเงินและการลงทุนที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคมปีนี้ ได้วิเคราะห์ผลประโยชน์ของบัตรเครดิตที่ลูกค้าชื่นชอบ เมื่อถามผู้ใช้บัตรเครดิตในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่าพิจารณาผลประโยชน์ใดเป็นอันดับแรกในการใช้บัตรเครดิต คำตอบที่ได้คือ ‘สะสมคะแนน (50.0%)’ และตามมาด้วย ‘เงินคืน (39.8%)’ และ ‘ส่วนลดค่าเดินทางและน้ำมัน (19.7%)’ เนื่องจากการสะสมคะแนนสามารถนำไปใช้ ได้หลายรูปแบบจึงดูเหมือนว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่สำคัญ ในความเป็นจริง ผลประโยชน์ที่ใช้จริงแล้วพบว่า ‘สะสมคะแนน (65.2%)’ เป็นคำตอบที่ได้รับมากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการสะสมคะแนนเป็นผลประโยชน์ที่คุ้นเคยและมีประสิทธิภาพในการใช้บัตรเครดิต
‘บัตรกสิกรไทย (21.7%)’ เป็นบัตรที่ได้รับการเลือกให้เป็นบัตรเครดิตหลักมากที่สุด แต่ผลการสำรวจในกลุ่มเจนซี ได้แสดงให้เห็นถึงอันดับ 1 ที่แตกต่างออกไป คุณสามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิตที่ใช้เป็นประจำ บริษัทบัตรเครดิตและธนาคาร ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และมุมมองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ในข้อมูลการเงินและการลงทุน (มีนาคม 2566)
แบรนด์ร้านกาแฟที่เจนซีชื่นชอบ รองจาก ‘สตาร์บัคส์’ คือ ‘เมกาโฮม’
ณ เดือนมกราคม 2566 จำนวนร้านกาแฟทั่วประเทศอยู่ที่ 93,414 ร้าน นับว่าเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2563 ก่อนเกิดโรคระบาด ในช่วงเวลาที่ร้านกาแฟมีมากมายขนาดนี้ แฟรนไชส์ร้านกาแฟที่ได้รับเลือกจากเจนซีคือที่ไหน เมื่อสอบถามเจนซีที่ไปร้านกาแฟอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง พบว่าแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่ชื่นชอบมากที่สุดคือ ‘สตาร์บัคส์ (25.9%)’ ตามมาด้วย ‘เมกาโฮม (14.2%)’ และ ‘อิออนคอฟฟี่ (9.9%)’
จากการสำรวจเกี่ยวกับการบริโภคอาหารที่ดำเนินการเมื่อ 3 ปีก่อน สตาร์บัคส์ยังคงครองอันดับ 1 เสมอ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือเมกาโฮมที่เคยอยู่ที่อันดับ 4 ในปี 2563 ได้ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 2 ในปีนี้ นอกจากนี้ คอมโพสคอฟฟี่และกงจาที่เคยไม่ได้อยู่ใน 5 อันดับแรก ได้ขึ้นมาครองอันดับ 4 ร่วมกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของแฟรนไชส์ร้านกาแฟราคาประหยัดนั้นน่าจับตามอง
เครื่องดื่มแก้เมาค้างที่แต่ละรุ่นชื่นชอบนั้นแตกต่างกัน เจนซีชอบ ‘ชังไคว่ฮวนแบบแท่ง’
ช่วงสิ้นปีและต้นปีเป็นช่วงที่การพูดคุยถึงปาร์ตี้สังสรรค์และเครื่องดื่มแก้เมาค้างเพิ่มขึ้น ข้อมูลการบริโภค-การดื่ม (เมษายน 2566) ได้สำรวจพฤติกรรมการดื่มและวิธีการบริโภคเครื่องดื่มแก้เมาค้าง ของแต่ละรุ่น จากการสำรวจพบว่า 71.8% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด เคยดื่มเครื่องดื่มแก้เมาค้าง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และ ‘คอนดิชั่น (42.0%)’ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการเลือกให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เคยดื่มมากที่สุด แต่เครื่องดื่มแก้เมาค้างที่แต่ละรุ่นชื่นชอบนั้นแตกต่างกัน เจนซีชอบ ‘ชังไคว่ฮวนแบบแท่ง (แบบเจลลี่)’ เจนวายรุ่นหลังชอบ ‘ชังไคว่ฮวน (แบบเม็ด)’ เจนวายรุ่นแรกชอบ ‘เยอมยง (แบบเครื่องดื่ม)’ และเจนเอ็กซ์ชอบ ‘คอนดิชั่น (แบบเครื่องดื่ม)’ มากที่สุด
เครื่องดื่มแก้เมาค้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาเพื่อบรรเทาอาการเมาค้างของตัวเอง แต่บางครั้งก็ซื้อมาเพื่อมอบเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเพื่อนในงานสังสรรค์ จากรายงาน ‘แนวโน้มการดื่มในปี 2566 จากข้อมูลบิ๊กดาต้าทางสังคม’ ได้ทำการวิเคราะห์คำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยในการซื้อเครื่องดื่มแก้เมาค้าง พบว่าคำสำคัญ ‘ของขวัญ’ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2563 นอกจากนี้ผลการสำรวจเชิงปริมาณ ยังแสดงให้เห็นว่าเหตุผลอันดับต้น ๆ ที่คนดื่มเครื่องดื่มแก้เมาค้าง คือ ‘คนรอบข้างมอบให้’
ภาพลักษณ์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นคืออะไร? กาแล็กซี่ ไอโฟน และ Z พลิก
ข้อมูลการบริโภค-อิเล็กทรอนิกส์ (กุมภาพันธ์ 2566) ได้สอบถามผู้ชายและผู้หญิงอายุ 19-53 ปี จำนวน 1,200 คน ทั่วประเทศเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของผู้ใช้กาแล็กซี่ ไอโฟน และ Z พลิก จากการสอบถามพบว่าอาชีพที่ผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่าเป็นผู้ใช้กาแล็กซี่มากที่สุดคือ ‘การจัดการ การเงินและบัญชี (52.7%)’ ตามมาด้วย ‘กฎหมาย (51.8%)’ และ ‘อุตสาหกรรม (51.5%)’ ซึ่งแตกต่างจากไอโฟนที่ ‘นักเรียน (63.0%)’ เป็นอันดับ 1 ในด้านของ Z พลิก ผลการสอบถามพบว่าอาชีพ ‘ศิลปะ (36.3%)’ และ ‘การตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์ (35.3%)’ เป็นอาชีพที่คาดว่าจะใช้ Z พลิก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสร้างภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากกาแล็กซี่ นอกจากนี้ คุณสามารถดูภาพลักษณ์ของผู้ใช้สมาร์ทโฟน ตามอายุ เพศ บุคลิกภาพ และความสนใจ ได้ในส่วนที่ 1 ของข้อมูลนี้
3 แหล่งช้อปปิ้งหลักของเจนซี คือ ช้อปออนไลน์ ร้าน H&B และร้านสะดวกซื้อ
จากการประกาศของกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับ ‘แนวโน้มการช้อปปิ้งออนไลน์’ พบว่ามูลค่าการค้าปลีกออนไลน์ในเดือนตุลาคม ได้ทะลุ 20 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ในช่วงเวลาที่ตลาดออนไลน์คึกคักเช่นนี้ สถาบันวิจัยเยาวชน 20 อันดับ ได้เปรียบเทียบร้านค้าหลักที่ใช้ในการซื้อสินค้า ในแต่ละประเภทผ่านการสำรวจการบริโภค-ทั่วไป (กันยายน 2566) จากการสำรวจพบว่า 45.7% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ใช้ ‘เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์แบบครบวงจร’ ในการซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่เจนซี ให้คำตอบว่าใช้ ‘ช้อปออนไลน์ (เช่น 29CM และ มูซินซา)’ มากที่สุด โดยอยู่ที่ 39.2%
ในด้านเครื่องสำอาง พบว่ามีแนวโน้มเช่นเดียวกัน ‘เว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์แบบครบวงจร (44.6%)’ เป็นร้านค้าหลักอันดับ 1 ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แต่เจนซี ได้เลือก ‘ร้าน H&B (35.9%)’ ให้เป็นอันดับ 1 นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 22.2% ที่ระบุว่าซื้อสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน์ของร้าน H&B ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 8.6% โดยรวมแล้วเจนซี เป็นกลุ่มที่ใช้ร้าน H&B กันอย่างแพร่หลาย สำหรับร้านค้าหลักในการซื้อสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (ไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ‘ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ (53.3%)’ เป็นอันดับ 1 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าช่องทางออฟไลน์ มีอิทธิพลเหนือกว่า แต่เจนซี ให้คำตอบว่า ‘ร้านสะดวกซื้อ (51.1%)’ เป็นร้านค้าหลักมากที่สุด
เงินใส่ซองที่เหมาะสมสำหรับงานแต่งงานของเพื่อนและคนรู้จักคือเท่าไหร่?
เมื่อเร็วๆ นี้เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ทำให้มักพบข้อกังวลหรือความขัดแย้ง เกี่ยวกับเงินใส่ซองในงานแต่งงาน ในชุมชนออนไลน์ต่างๆ สถาบันวิจัยเยาวชน 20 อันดับ จึงได้ทำการสำรวจ ผู้ชายและผู้หญิงอายุ 15-62 ปี จำนวน 1,500 คน ทั่วประเทศ เกี่ยวกับจำนวนเงินใส่ซองที่เหมาะสมสำหรับงานแต่งงาน ของเพื่อนและคนรู้จัก และจำนวนเงินที่ยินดีจ่ายสำหรับงานแต่งงานของเพื่อนสนิท
เน้นผลการสำรวจกลุ่มเจนวายรุ่นหลัง (อายุ 28-34 ปี) ซึ่งเป็นกลุ่มอายุที่มักจะไปร่วมงานแต่งงานบ่อย พบว่าเงินใส่ซองที่เหมาะสมสำหรับเพื่อนและคนรู้จัก อยู่ที่ประมาณ 84,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบ 100,000 บาท คิดเป็นสัดส่วนสูงสุดที่ 51.7% ยกเว้นเจนซี ซึ่งมีนักเรียนอยู่มาก และได้เลือก 50,000 บาท เป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมมากที่สุด กลุ่มอายุอื่น ๆ ได้เลือก 100,000 บาท เป็นคำตอบมากที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีทัศนคติว่าควรใส่ซอง อย่างน้อย 100,000 บาท ในงานแต่งงาน ในขณะเดียวกัน เจนวายรุ่นหลัง ยินดีจ่ายเงินใส่ซองสำหรับเพื่อนสนิท โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 237,000 บาท
เจนซี สนใจหัวข้อใดในโอเพ่นแชท? คือ ‘เกม’
จากข้อมูลสื่อ เนื้อหา และแพลตฟอร์ม (กรกฎาคม 2566) พบว่าจากผู้ชายและผู้หญิงอายุ 15-53 ปี ทั่วประเทศที่เคยใช้บริการสื่อ เนื้อหา ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 85.9% เคยใช้บริการชุมชนออนไลน์ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ‘ชุมชนออนไลน์บนเว็บไซต์พอร์ทัล (เช่น เน이버 และ ดาอุม) (63.8%)’ มีอัตราการใช้บริการสูงที่สุด ตามมาด้วย ‘ชุมชนออนไลน์บนเว็บไซต์ (39.0%)’ และ ‘ชุมชนออนไลน์แบบโอเพ่นแชท (37.9%)’ โดยเฉพาะเจนซี มีอัตราการใช้บริการชุมชนออนไลน์แบบโอเพ่นแชท อยู่ที่ 47.6% ซึ่งสูงกว่ารุ่นอื่นๆ
ได้ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียด เกี่ยวกับโอเพ่นแชท ซึ่งเป็นโอเพ่นแชทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในคาคาโอทอล์ก หัวข้อของโอเพ่นแชท ที่เคยเข้าร่วมในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คือ ‘ชีวิตประจำวัน (22.9%)’ มากที่สุด ตามมาด้วย ‘เศรษฐกิจและการเงิน (19.6%)’ และ ‘การท่องเที่ยว (14.1%)’ แต่หัวข้อที่ได้รับการเลือก ให้เป็นอันดับ 1 ของแต่ละรุ่น นั้นแตกต่างกันเล็กน้อย เจนซีคือ ‘เกม (19.2%)’ เจนวายรุ่นหลังคือ ‘ชีวิตประจำวัน (25.4%)’ เจนวายรุ่นแรกคือ ‘เศรษฐกิจและการเงิน (32.9%)’ และเจนเอ็กซ์คือ ‘ชีวิตประจำวัน (30.4%)’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหัวข้อที่แต่ละรุ่น ให้ความสนใจนั้นชัดเจน
เงินเดือนที่นักศึกษาฝึกงาน หวังว่าจะได้รับคือ 44.52 ล้านบาท
อะไรคือสิ่งที่นักศึกษาฝึกงาน พิจารณาเป็นหลัก เมื่อเลือกบริษัทที่จะเข้าทำงาน? จากผลการสำรวจเกี่ยวกับการทำงาน ของสถาบันวิจัยเยาวชน 20 อันดับ (พฤษภาคม 2566) พบว่า ‘เงินเดือน (28.4%)’ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เงินเดือนที่นักศึกษาฝึกงาน หวังว่าจะได้รับอยู่ที่ 44.52 ล้านบาท โดยเฉลี่ย และเมื่อแบ่งตามสาขา พบว่าสาขามนุษยศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ อยู่ที่ 41.28 ล้านบาท และสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ อยู่ที่ 46.95 ล้านบาท